ไม่มีทางเกิดขึ้น

ย้อนกลับไปช่วงกลางเดือนเมษายนปี 2564 หรือปี 2021 มีข่าวสะท้านวงการลูกหนังโลกเมื่อ 12 สโมสรชื่อดังประกาศร่วมตั้งศึก “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” ขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับศึก “ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก” ที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปเป็นผู้จัดการแข่งขัน

,

สำหรับ 12 ทีมที่ร่วมก่อตั้งได้แก่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, ทอตแนม ฮอตสเปอร์, อาร์เซนอล, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา, แอต. มาดริด, เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส

,

โดยเป้าหมายของการแข่งขัน “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” นั้น ทั้ง 12 สโมสรก็ยืนยันว่าเป็นการพัฒนาการแข่งขันเกมระดับยุโรปให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม แต่สาเหตุหลักก็คือเรื่องของเงินส่วนแบ่งเพราะก่อนหน้านี้บรรดาทีมใหญ่ไม่ค่อยพอใจกับการแบ่งสันปันส่วนของทาง “ยูฟ่า” เกี่ยวกับเงินรางวัลของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

,

เพราะบรรดายักษ์ใหญ่มองว่าทาง “ยูฟ่า” ได้ให้ส่วนแบ่งทีมใหญ่ๆ น้อยกว่าที่ควรจะเป็นแต่หากเป็นยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก แต่ละทีมจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำ โดยมีการคาดการณ์ว่าบรรดาสโมสรผู้ก่อตั้งจะได้รับเงินมากถึง 3,500 ล้านยูโร (ประมาณ 129,500 ล้านบาท) เลยทีเดียว

,

แต่ยังไม่ทันไร “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” ก็ถูกทำหมันในทันทีเมื่อทาง “ยูฟ่า” และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่ออกมาค้านหัวชนฝา เนื่องจากมองว่าการจัดการแข่งขันรายการนี้มุ่งแต่ผลประโยชน์ของทีมใหญ่ๆเท่านั้น โดยไม่สนใจทีมเล็กๆเลย

,

ทำให้ทั้งสององค์กรก็ประกาศทันทีว่าหากนักเตะคนไหนร่วมแข่งรายการนี้ก็จะโดนแบนห้ามแข่งในรายการต่างๆ ที่ทางยูฟ่า และฟีฟ่า จัดการแข่งขันขึ้น นั่นหมายความว่าบรรดานักเตะที่ตัดสินใจร่วมเล่นใน “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” ก็จะอดเตะศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) และฟุตบอลโลก (เวิลด์ คัพ) ไปทันที

,

นอกจากยูฟ่า และฟีฟ่าแล้วบรรดาองค์กร ลูกหนังต่างๆ รวมถึงนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของทีมต่างๆ รวมถึงแฟนบอลของ 12 ทีมที่เป็นผู้ก่อตั้งก็ได้ออกมาบอยคอตอย่างหนักจนทำให้บรรดาทีมต่างๆ ที่มีชื่อพากันถอนตัวไปหมด เหลือเพียงแค่เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ที่ยังพยายามต่อสู้เรื่องดังกล่าว

,

จนล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ได้ตัดสินว่าทางยูฟ่า และฟีฟ่าได้ กระทำการขัดต่อกฎหมาย หลังขัดขวางการก่อตั้งยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก เมื่อปี 2021 ด้วยคำสั่งห้ามสโมสรกับผู้เล่นลงเล่นรายการเหล่านั้น เป็นสิ่งผิดกฎหมาย

,

โดยศาลระบุว่าทั้งสององค์กรไม่มีสิทธิ์ห้ามนักเตะลงทำการแข่งขันในรายการ “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” จนทำให้หลายฝ่ายคาดว่าการจัดการแข่งขันรายการนี้อาจจะกลับมาจัดได้ตามที่ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ที่สู้เต็มที่เพื่อที่จะจัดตั้งให้ได้

,

แต่สิ่งที่ทั้ง 3 สโมสรคิดกลับไม่เป็นดังหวังเมื่อรอบนี้บรรดาทีมต่างๆ ได้แสดงการต่อต้านในการจัดการแข่งขัน “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” อย่างชัดเจนและหนักหน่วงกว่ารอบที่แล้วเสียอีก

,

โดย 24 ทีมชื่อดังของยุโรปไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, ทอตแนม ฮอตสเปอร์, อาร์เซนอล, เซลติก, บาเยิร์น มิวนิก, ดอร์ทมุนด์, อตาลันตา, โคเปนเฮเกน, อินเตอร์ มิลาน, โรมา, เรอัล โซเซียดัด, แอต.มาดริด, เซบีญา, บาเลนเซีย, เลบานเต, เรอัล บายาโดลิด, กรานาดา, บีญาร์เรอัล, เฟเยนูร์ด, โมนาโก, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, กาลาตาซาราย และปอร์โต ก็ยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมแน่นอน

,

จากรายชื่อทีมที่ประกาศไม่ร่วมนั้นก็ถือว่าเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปทั้งนั้น เท่านั้นยังไม่พอหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลก็ต่างส่ายหัวทั้งนั้น โดยเฉพาะแฟนบอลทีมต่างๆ ที่ค้านหัวชนฝาเลยทีเดียวจนผู้บริหารทีมต่างๆ ก็ไม่กล้าเสี่ยงกับแฟนบอลของตัวเองเช่นกัน

,

ดูท่าทาง “ยูโรเปียน ซุปเปอร์ลีก” น่าจะล้มไม่เป็นท่าอีกครั้ง!!

,

คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *